‘เจียรวนนท์’ ปรับทัพดูแลมั่งคั่ง ตั้ง Family Office ในฮ่องกงบริหารทรัพย์สิน

‘ตระกูลเจียรวนนท์’ เตรียมตั้งสำนักงานครอบครัวในฮ่องกง บริหารความมั่งคั่ง 3.3 แสนล้านดอลลาร์

หลังสมาชิกครอบครัวติดอันดับอภิมหาเศรษฐีไทย ‘อเล็กซ์ เจียรวนนท์’ หลานชาย เผยเจ้าสัวธนินท์ สนใจขยายฐานในฮ่องกง ผู้บริหารซีพี ชี้ แยกส่วนจากการบริหารธุรกิจของเครือ

ฮ่องกงกำลังผลักดันนโยบายให้ชาวต่างชาติเข้าไปตั้งสำนักงานครอบครัว หรือ Family Office (FO) ซึ่งจะทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์สิน รักษาความมั่งคั่ง ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และดูแลบุคคลในครอบครัว เช่น จองที่พัก จัดหาผู้ช่วยส่วนตัว โดยในวันที่ 24 มี.ค.2566 จัดประชุมผู้นำ “Wealth for Good” 24 มี.ค.2566 ดึงดูดครอบครัวเศรษฐีทั่วโลกมาตั้ง Family Office

ตัวอย่างธุรกิจ

รวมทั้งก่อนหน้านี้ฮ่องกงได้ขับเคลื่อนแผนการดึงการลงทุนจากต่างชาติต่อเนื่อง ซึ่งในเดือน ก.พ.2566 สำนักงานส่งเสริมการลงทุนฮ่องกง (Invest Hong Kong) ได้เข้ามาโรดโชว์ในไทยเพื่อดึงนักธุรกิจไทยไปลงทุนในฮ่องกง โดยเฉพาะใน 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจการเงินฟินเทค ธุรกิจไฮเทคโนโลยีและนวัตกรรม และธุรกิจสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนฮ่องกง ได้ย้ำถึงนโยบายของ ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน ที่ใช้นโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ โดยจะรับประกันความมั่นคงระยะยาวให้นักลงทุนต่างชาติในฮ่องกง เพื่อดึงการลงทุนต่างชาติเข้าฮ่องกงและจีน

เว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานอ้างข้อมูลจากคนในตระกูลว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมด้วยนายสุภกิต เจียรวนนท์ บุตรชายคนโต ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ จะไปร่วมงานกาลาดินเนอร์ของการประชุมผู้นำ Wealth for Good ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงในวันที่ 24 มี.ค.2566 ‘เจียรวนนท์’ ปรับทัพดูแลมั่งคั่ง ตั้ง Family Office ในฮ่องกงบริหารทรัพย์สิน

นายอเล็กซ์ เจียรวนนท์ รองประธานบริษัทซีทีไบรท์ หลานชายของนายธนินท์ ระบุว่า ผู้บริหารทั้ง 2 ไปฮ่องกงเพื่อเห็นและเข้าใจอนาคตของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางให้อภิมหาเศรษฐีเข้ามาลงทุนและทำสิ่งที่ดีได้ดียิ่งขึ้นด้วยตาตนเอง

“เรามองฮ่องกงในฐานะจุดตัดที่สิ่งดีๆ หลายอย่างมาบรรจบกัน ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของโลก เก็บภาษีต่ำ และไลฟ์สไตล์มีชีวิตชีวา” อเล็กซ์ หรือชื่อไทยว่า เอกชัย อธิบาย

ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงต้องการส่งเสริมเมืองนี้ให้เป็นศูนย์กลางการจัดการความมั่งคั่งและการกุศลของเอเชีย และเตรียมประกาศชุดมาตรการจูงใจวันที่ 24 มี.ค.2566 ระหว่างประชุมผู้นำ Wealth for Good เพื่อดึงดูดให้ตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวที่นี่ งานนี้ผู้บริหารสำนักงานกว่า 100 รายและทีมงานจะมารวมตัวกันพร้อมหารือกันถึงโครงการอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกุศล ศิลปะ เทคโนโลยี

รวมทั้งการประชุม Wealth for Green เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และการบริหารจัดการที่ดี (อีเอสจี) โดยนายริชาร์ด ลี ประธานพีซีซีดับเบิลยูกรุ๊ป บุตรชายนายลี กาชิง ผู้มั่งคั่งที่สุดของฮ่องกง มีกำหนดแสดงปาฐกถาในเวทีเทคโนโลยีร่วมกับนายเจอร์รี หยาง ผู้ร่วมก่อตั้งยาฮู และนายนีล เฉิน หุ้นส่วนบริหารผู้ร่วมก่อตั้งซีคัวญา ไชนา

นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริหารกลุ่มซีพีไม่ได้ร่วมเวทีเสวนาในวันที่ 24 มี.ค.2566 เนื่องจากภารกิจหนาแน่น โดยจะออกจากฮ่องกงด้วยเครื่องบินส่วนตัวหลังจบงานกาลาดินเนอร์

ข่าวแนะนำ : เซ็นทรัลพัฒนางัดไอเดียสุดสร้างสรรค์ปั้น Brand Archetype

เซ็นทรัลพัฒนางัดไอเดียสุดสร้างสรรค์ปั้น Brand Archetype

เซ็นทรัลพัฒนางัดไอเดียสุดสร้างสรรค์ปั้น Brand Archetype ผ่าน centralwOrld citizens ในงาน Bangkok Design Week 2023

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ร่วมกับ Bangkok Design Week สร้างสรรค์นิทรรศการศิลปะในย่านเศรษฐกิจทั่วกรุงเทพฯ โดยเซ็นทรัลเวิลด์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน Bangkok Design Week 2023 หรือ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ เพื่อรังสรรค์สิ่งต่างๆให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิต โดยรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่มาใช้บริการในศูนย์การค้าที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม อายุ เพศ และความชอบที่แตกต่าง เปรียบเสมือนงานศิลปะที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรขับเคลื่อนและให้ความสำคัญ เป็นแนวคิดหลักในการสร้างแบรนด์คาแรกเตอร์ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ถูกนำมาคิดต่อยอดและสร้างสรรค์เป็น centralwOrld citizens อาร์ตสเปซสีสันโดดเด่นสะดุดตา นำเสนอ Brand Archetype ของเซ็นทรัลเวิลด์ผ่านอักษร A-Z มาสร้างสรรค์เป็น 26 คาแรกเตอร์ ด้วยลายเส้นที่แฝงความหมายดีๆในคำอธิบายทำให้ผู้พบเห็นชี้ชวนกันดูอย่างสนุกสนานและตั้งคำถามว่าเราเป็นใครในคาแรกเตอร์เหล่านี้

โดย centralwOrld คำว่า wOrld หมายถึงโลกของทุกๆคน ที่ซึ่งโลกของทุกคนเกิดขึ้นได้ที่นี่ เราจะพัฒนาไปในทุกด้านให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มทุกประเภท ให้รู้สึกมีส่วนร่วม เน้นสร้างสังคมเมืองที่เป็นมิตรให้เป็นไปในทิศทางที่ดี ส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายและเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นพื้นที่แห่งไอเดียและสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น โดยนิยามบุคคลที่เข้าใจความเป็นตัวตนของตัวเองว่า centralwOrld citizens ที่ๆ ทุกคนสามารถสร้างโลกในแบบที่คุณต้องการได้ เซ็นทรัลเวิลด์สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ ผ่านประสบการณ์และการรับรู้ในแง่ของ สินค้าและบริการ ร้านค้าต่าง ๆ กิจกรรมมากมาย เซอร์วิสที่ครบทุกรูปแบบ สะท้อนความเป็นมิตรกับกลุ่มคนที่หลากหลายและแตกต่าง แต่ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้ที่นี่ ตอบสนองการเป็น city destination and community ของเมืองได้อีกด้วย

ข่าวธุรกิจ-ระหว่างประเทศ

สำหรับคาแรคเตอร์ A-Z 26 ชิ้นงาน ได้แก่ Achiever, Believer, Creative, Discoverer, Enthusiast, Fashionista, Gastronomer, Homemaker, Influencer, Jammer, Kinflok, Lover, Monster, Nature Lover, Optimist, Perfectionist, Queer, Reviver, Sociable, Trotter, Urbanist, Visionaire, Weekender, Explorer, Youtuber, Zigzagger

นอกจากนี้ยังมี Showcase สุดเจ๋งกับคอลเลกชั่นสุด Exclusive BKKDW23 x CASETiFY ซึ่งเป็นการ Collaboration ผลงานของศิลปินไทย 10 ท่าน ประกอบด้วย JULI BAKER AND SUMMER, PNK.FF, NATTHAPHORN, JIRANARONG, NAKROB MOONMANAS, EAOWEN, FAAN.PEETI, PHAYANCHANA, KANITH และ PRANG VIPALUK ภายใต้แนวคิดงาน Bangkok Design Week ซึ่งศิลปินนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้สะท้อนถึงความเป็นมิตรและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของย่านดังต่างๆ 10 ย่าน ในกรุงเทพฯ บอกเลยว่ามันเจ๋งมาก!! ชมผลงานสุด Exclusive ที่จัดทำเป็นพิเศษเฉพาะสาขา centralwOrld นี้ได้ที่ Atrium Zone ชั้น 1 วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น พร้อมสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีที่ CASETiFY POP UP สาขาเซ็นทรัลเวิลด์

มาเสพงานอาร์ตสัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าการชมงานศิลปะ และสร้างโลกในแบบที่คุณเป็นกับcentralwOrld citizens ที่โซน Groove Gallery Walk, จอ The panOramix, จอ LED ที่โซน Beacon และจุดต่างๆทั่วศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2566 เวลา 10.00-22.00 น. และชมนิทรรศการพร้อมกิจกรรมค้นหาตัวตนและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ในงาน Bangkok Design Week 2023 ณ ลานไปรษณีย์กลาง บางรัก วันนี้-12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00-22.00 น.

แนะนำข่าวธุรกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ต้ังทีมตามติดอนาคต “ทรู-ดีแทค”

ต้ังทีมตามติดอนาคต “ทรู-ดีแทค”

น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์

เปิดเผยว่า บอร์ด กสทช.กำลังอยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการบังคับใช้มาตรการเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หลังกระบวนการควบรวมกิจการระหว่างบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กำลังเดินหน้าตามกำหนดที่จะเสร็จสิ้น ในไตรมาสแรกของปี 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาที่ประชุมบอร์ด กสทช.มีมติ 3 ต่อ 2 รับทราบการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคโดยให้กำหนดมาตรการ เพื่อป้องกันผลกระทบอันจะเกิดกับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม

“ในฐานะกรรมการเสียงข้างน้อย ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม มองว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องติดตามกำกับดูแลให้ทรูและดีแทคปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการควบรวมที่ทำให้จำนวนผู้เล่นลดจาก 3 เหลือ 2 แทบไม่เคยได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นทั่วโลก ในกรณีนี้ขอไม่นับรวมผู้เล่นรายที่ 4 อย่างบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ NT ที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 2% เพราะไม่สามารถสร้างการแข่งขันที่สมบูรณ์ได้”

ธุรกิจ.jpg9

น.ส.พิรงรอง ยังกล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการ 3BB ของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ว่า จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขปฏิบัติเยี่ยงเดียวกัน เพียงแต่ในรายละเอียดอาจแตกต่างเนื่องจากไม่ใช่การควบรวมแต่เป็นการเข้าซื้อกิจการ และผู้เล่นยังไม่ได้ลดเหลือ 2 ราย โดยขณะนี้สำนักงาน กสทช.กำลังรวบรวมรายละเอียดของการเข้าซื้อกิจการ 3BB เพื่อเสนอเข้าสู่วาระพิจารณาของบอร์ด กสทช.ต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้.

‘โคเมเฮียว’ เปิดช็อปเพิ่ม 2 สาขา ปลุกตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือ2 โต

‘โคเมเฮียว’ เปิดช็อปเพิ่ม 2 สาขา ปลุกตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือ2 โต

เปิดอีก 2 สาขาใหม่ สำหรับสวรรค์นักช้อปแบรนด์เนมมือสองภายใต้ร้าน “โคเมเฮียว” ปักหมุด “เทอร์มินอล 21 พระราม 3 – เจพาร์ค ศรีราชา” เจาะสาวกกำลังซื้อสูง

โคเมเฮียว(KOMEHYO) ศูนย์รวมสินค้า Pre-loved Items หรือแบรนด์เนมมือ 2 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นกว่า 75 ปี เดินหน้ารุกตลาดในไทยต่อเนื่อง ล่าสุดลุยเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาใหม่ ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พระราม 3” ที่เพิ่งเปิดให้บริการ 20 ต.ค.นี้ และ “เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ” เตรียมเปิดบริการเดือน ธ.ค.นี้ ชูกลยุทธ์เอาใจเหล่านักช้อปแบรนด์เนมมือสอง ด้วยบริการรับซื้อ – ขายสินค้า คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีความชำนาญในการเลือกสินค้า เผยสาวกแบรนด์เนมให้การตอบรับดี

มร.ฮิเดโอะ ทาเคโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์และกลุ่ม KOMEHYO (โคเมเฮียว) ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นกว่า 75 ปี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดร้านโคเมเฮียวแห่งใหม่ ณ ชั้น G “ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 พระราม 3” นับเป็นสาขาที่ 3 บนพื้นที่กว่า 160 ตารางเมตร พร้อมบริการ 20 ต.ค.นี้ ส่วนอีกร้านอยู่ที่ชั้น 2 New Town Zone ภายในศูนย์การค้า “เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ” ซึ่งเป็นสาขาที่ 4 เปิดบริการเดือน ธ.ค.นี้

ธุรกิจ

พร้อมกันนี้ได้ชูการให้บริการรับซื้อ – ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีความชำนาญในการเลือกสินค้ามาให้บริการ ภายใต้แนวคิด ‘Relay Use’ ส่งต่อสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วไปให้บุคคลอื่นที่ยังต้องการ เพื่อนำไปใช้งานให้ได้ประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ การเปิดสาขาดังกล่าว เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัทฯ ปัจจุบัน เมื่อรวม 2 สาขาล่าสุด โคเมเฮียวจะมี Flagship store ในไทย 4 สาขาที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล@เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2,ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลบางนา ชั้น 1, ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ชั้น G และ เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ ชั้น 2 New Town Zone 3 สาขา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ชั้น 1 และศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ชั้น G

แนะนำข่าวธุรกิจเพิ่มเติม : Xiaomi เปิดตัวรุ่นเรือธงใหม่ Xiaomi 12T Series อัดความละเอียดกล้อง 200 ล้านพิกเซล

Xiaomi เปิดตัวรุ่นเรือธงใหม่ Xiaomi 12T Series อัดความละเอียดกล้อง 200 ล้านพิกเซล

Xiaomi เปิดตัวรุ่นเรือธงใหม่ Xiaomi 12T Series อัดความละเอียดกล้อง 200 ล้านพิกเซล

Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงใหม่ Xiaomi 12T Series โดยจำหน่าย 2 รุ่นคือ  Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T (รุ่นความจุ 8GB + 256GB)  ความโดดเด่นของซีรีส์นี้อยู่ที่ตัวกล้อง ที่อัดความละเอียดกล้องหลักถึง 200 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์ ขนาดใหญ่ 1/1.22 นิ้ว ( Xiaomi 12T Pro) ถือเป็นความละเอียดกล้องที่สูงมาก และน่าจะยังมีรุ่นเดียวในไทยตอนนี้

ฟีเจอร์เด่นของ Xiaomi 12T Pro  

  • กล้องหลักเซนเซอร์ Samsung HP1 ความละเอียด 200 MP รองรับวิดีโอ 8K
  • กล้องอัลตราไวด์ 8MP
  • กล้องมาโคร 2MP
  • กล้องหน้า : 20MP
  • โปรเซสเซอร์ Snapdragon® 8+ Gen 1 กระบวนการผลิต 4nm TSMC
  • จอแสดงผลแบบ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220p
  • รีเฟรชเรท 120Hz
  • ขนาด : 163.1 x 75.9 x 8.6 มม. น้ำหนัก 205 กรัม
  • RAM  12GB, ROM  256GB
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos
  • ระบบระบายความร้อนใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน 65%
  • แบตเตอรี่ 5000mAh และมี เทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ HyperCharge 120W ใช้งานบนหน้าจอได้สูงสุด 13.5 ชั่วโมง
  • ระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13
  • USB Type-C

ส่วน Xiaomi 12T เป็นรุ่นรองลงมา ความต่างหลักๆ คือ ประสิทธิภาพกล้องไม่สูงเท่ารุ่น Pro และใช้ชิป Dimensity 8100 Ultra ของ MediaTek อีกหนึ่งผู้ผลิตชิปของไต้หวัน

ฟีเจอร์เด่นของ Xiaomi 12T 

  • กล้องหลักความละเอียด 108MP ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K 24fps
  • กล้องอัลตราไวด์ 8MP
  • กล้องมาโคร 2MP
  • กล้องหน้า 20MP
  • จอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz
  • ขนาด : 163.1 x 75.9 x 8.6 มม., น้ำหนัก  202 กรัม
  • RAM 8GB, ROM 256GB
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จไว 120W
  • ระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13

Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue ขายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

  • Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท
  • Xiaomi 12T รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท

ในงานเปิดตัวนอกจากมือถือเรือธงแล้ว Xiaomi ยังเปิดตัวกองทัพอุปกรณ์ IoT, gadget ใหม่ๆ เช่น แท็บเล็ต Redmi Pad, สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 7 Pro, หูฟัง Redmi Buds 4 Pro, หุ่นยนต์ทำความสะอาด Xiaomi Robot Vacuum X10+, เครื่องทำความสะอาด Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum, กล้อง Mi Dash Cam 2 และ Xiaomi Smart Doorbell 3